วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตะละลำ ตำตำ เมนูแซบสู่เมนูส้มตำ อาหารชอบ

แวะเวียนผ่านไปบริเวณชั้นจี โซนซี เมเจอร์รัชโยธิน อเวนิว แบบบังเอิญ แม่พลอยยอมรับแบบตรง ๆ ว่าสะดุดตาสะดุดใจกับชื่อ ร้านตะละลำ ตำตำ เข้าอย่างจังจริง ๆ เลยสบช่องแวะเข้าไปลิ้มรสอาหารจำพวกเมนูส้มตำแซบ และอีกหลายหลากเมนูรสชาติและหน้าตาอาหารเข้าตาถูกปากหลายรายการ

เปิดรายการชิมด้วยเมนูแนวเก๋แบบฟิวชั่นฟู้ด ออกแนวผสมผสาน ข้าวเหนียวทอดไส้ลาบ ดูเป็นเปาะเปี๊ยะทอด ทำเป็นแท่งเสิร์ฟมาในแก้วใบสวย ทานเล่นเพลิน ๆ รสชาติแบบกรอบนอกนุ่มหนึบ ข้างในมีกลิ่นหอมของข้าวเหนียวเจือกับลาบ จิ้มทานกับน้ำจิ้มแจ่ว เพิ่มรสชาติได้มากขึ้น

ยกระดับเมนูแซบสู่เมนูส้มตำ อาหารชอบของคนทั่วไป ส้มตำร้านนี้มีให้เลือกเยอะมาก หลายรายการ แต่ที่อยากแนะนำเป็นลำดับ ต้น ๆ เป็น ตำข้าวโพด ดูไม่ค่อยเข้ากัน หรือดูค่อนข้างขัดแย้ง ไม่เชื่อมโยงระหว่างข้าวโพดกับน้ำยำส้มตำเลยแม้แต่นิด แต่พอได้ลิ้มรส กลับผิดความคาดหมาย ทุกอย่างเข้ากันได้ดี ข้าวโพดหวานซึมซับรสน้ำยำของส้มตำ ออกหวานเปรี้ยวและเผ็ด แถมได้ความมันและความเค็มของ ไข่เค็มที่ใส่รวมมา ใครชอบทานข้าวโพด เมนูนี้โปรดอย่าพลาด

ส้มตำตะเหลิด มีทั้งเส้นมะละกอ ขนมจีน กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาว มะเขือเทศและมีลาบหมูผสมด้วย ตำ ๆ โขลก ๆ ใน ครก ได้รสชาติส้มตำที่ออกเผ็ดนำ แต่ได้รสกลมกล่อม เหมือนทานลาบหมู ขนมจีนและส้มตำในจานเดียวกัน หากไม่นิยมทานเผ็ด ระบุชัดว่า “ขอไม่เผ็ด”
ตำเถิดเทิง ดูเครื่องปรุงแต่ละตัว มีทั้งเส้นมะละกอ มะเขือเทศ แตงกวา หมูยอ ไก่ย่าง แคบหมู สร้างความเพลิดเพลิน ในการทานส้มตำได้ไม่น้อย จะเรียกอีกอย่างว่ายิ่งกว่าตำมั่วเพราะใส่สารพัดเครื่องปรุง แต่รสชาติดีลงตัว

ทานส้มตำต้องมีไก่ทานคู่กัน แนะนำ ไก่เหลือง สีสันน่าทานมาก ใช้เนื้อไก่หมักขมิ้นและย่าง เนื้อไก่ข้างนอกดูแห้งแต่เนื้อในฟู หอมกลิ่นเครื่องเคราที่ใช้หมักเนื้อไก่นิ่มเคี้ยวเพลิน

ส่วนอาหารประเภทยำมีมาก แต่เลือกแนะนำ ยำสายบัวกุ้งสด เพราะหาทานยาก มีทั้งกุ้งและหมูสับใส่มาให้ รสชาติดี สายบัวสดกรอบ กุ้งสด น้ำยำรสชาติออกเผ็ดนำ แต่รับรองถูกปากคนชอบทานสายบัวเป็นที่ตั้ง

ตะละลำ ตำตำ มีอาหารเมนูแซบแบบประยุกต์ให้ถูกปาก นักชิมรุ่นใหม่เยอะมาก พอมีเวลาลองแวะเวียนไปลิ้มรสชาติได้ ร้านเปิดบริการทุกวันตั้งแต่
เวลา 11.00 น.-22.00 น. สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2512-1512.
............................................
ฟิตเนสสลัด

ส่วนผสม :
1. ผักกาดแก้ว
2. ใบเบซิล
3. เรดโอ๊ค
4. กรีนโอ๊ค
5. ร็อกเกต
6. ต้นหอม
7. มะเขือเทศอิตาเลียน
8. กะหล่ำปลีม่วง
9. พาร์สลีย์
10. ซุกกินีหรือแตงกวา
11. มะเขือเทศสับ
12. มะกอกดำ
13. แซลมอนรมควัน
14. กุ้งลวก
15. หอยแมลงภู่ลวกสุก
16. ผลไม้เช่น กีวี มะม่วงสุก องุ่น
17. บัลซามิคเวนิก้า (น้ำส้มสายชูอิตาเลียน)
18. น้ำมันมะกอก

วิธีทำ :
1. ล้างผักทุกอย่างให้สะอาด ผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. จัดเรียงผักในจานพร้อมเสิร์ฟ แล้วตกแต่งให้สวยด้วยสีสันของมะกอกดำซอย สีเขียวของกีวี สีเหลืองของมะม่วงสุก และสีม่วงจากผลองุ่น
3. แต่งรอบ ๆ จานด้วยแซลมอนรมควัน กุ้งลวก และหอยแมลงภู่
4. นำใบเบซิลมาปั่นผสมกับน้ำมันมะกอก และบัลซามิคเวนิก้า กลายเป็นเดรสซิ่งสุดเก๋ราดลงไปบนสลัด แต่งจานด้วยพาร์สลีย์ ประดับด้วยต้นหอม เสิร์ฟทันที
..........................
กินเจ กินผัก-บาร์บีคิวเจ-ไม่อ้วนและช่วยต้านอนุมูลอิสระ
    กินเจ กินผัก
พญ.ลลิตา ธีระสิริ


นักวิทยาศาสตร์รู้ว่าสิ่งมีชีวิตทุกประเภทที่สามารถดำรงพันธุ์อยู่ในโลกนี้ได้ก็เพราะร่างกายมีวิธีสร้างสารต้านอนุมูลอิสระขึ้นมาต่อต้านการทำลายของปฏิกิริยาออกซิเจน อย่างพืชหรือต้นไม้ มันจะสร้างสารต้านอนุมูลอิสระออกมามากมาย มันจึงไม่สูญพันธุ์ไปจากโลกนี้

ทุกวันนี้เรารู้จักสารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ในชื่อของ ‘สารผัก’ หรือ ไฟโตนิวเตรียนท์ ซึ่งในพืชผักแต่ละอย่างก็มีไฟโตนิวเตรียนท์แตกต่างกันไป เช่น
พืชผักแต่ละชนิด ล้วนแล้วแต่มีไฟโตนิวเตรียนท์ทั้งสิ้น หากเรากินผักเข้าไปเราก็ได้รับสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไปใช้ได้ในทันที
การกินเจในแต่ละปี ปีละ 10 วัน น่าจะเป็นโอกาสที่คนเรากินผักเพื่อจะได้สารไฟโตนิวเตรียนท์ดังกล่าวเข้าไป ทำให้สุขภาพร่างกายดีขึ้นโดยรวม ภูมิต้านทานดีขึ้น ลดอัตราเสี่ยงของมะเร็งลง

การกินเจที่มีแต่หมูปลอม ไก่ปลอม ปลาปลอม กระทั่งหูฉลามปลอม น่าจะได้ประโยชน์น้อยกว่าการกินเต้าหู้ กินผักสด ผักสุก และกินข้าวกล้อง
ในเทศกาลกินเจ จึงขอเชิญชวนผู้รักสุขภาพเน้นอาหารจานผักให้มาก ดังตัวอย่างเมนูต่อไปนี้

บาร์บีคิวเจ

เครื่องปรุง
:

เต้าหู้อ่อน 1 แผ่น
มะเขือเทศลูกเล็ก
กระเจี๊ยบเขียว
สับปะรด
พริกหวานสีเขียว
น้ำซอส
พริกแดง 3 เม็ดเอาไส้ออก
น้ำเชื่อม1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือนิดหน่อย
มะนาว 1 ลูก
งาขาว

วิธีทำ

ตัดเต้าหู้เป็นรูปสี่เหลี่ยม เสียบเข้ากับไม้ ใส่มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ สับปะรด พริกหวาน ปั่นเครื่องปรุงน้ำซอสเข้าด้วยกัน เอาบาร์บีคิวชุบน้ำซอส นำไปอบหรือย่างก็ได้ เอาน้ำซอสทาบ่อย ๆ เมื่อสุกแล้วจัดใส่จาน โรยด้วยงาขาว
หมายเหตุ
ถ้าเบื่อหน่ายอาหารเจแบบเดิม ๆ ก็ลองทำบาร์บีคิวเจกินดูบ้างจะได้ทั้งประโยชน์ และความอร่อย
Source : http://www.kwanruen.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น